เมื่อ Canva ซื้อ Affinity จุดเปลี่ยนของโลกดีไซน์ที่ไม่จำเป็นต้องมี Adobe อีกต่อไป
ในโลกของการออกแบบดิจิทัล Adobe คือยักษ์ใหญ่ที่หลายคนเชื่อว่าจะครองตลาดไปนานเป็นสิบปี แต่ทว่า เมื่อผู้ใช้เริ่มผวากับโมเดล “สมัครสมาชิก” อยู่เรื่อยมา ก็มีแรงผลักดันที่ทำให้เกิดทางเลือกใหม่ๆ ขึ้นมาสำหรับผู้ที่อยากได้เครื่องมือแข็งแรงแต่ไม่อยากถูกผูกมัดหนักๆ โปรแกรมอย่าง Affinity ได้ขึ้นมาเป็นหนึ่งในนั้น และตอนนี้กำลังถูกส่งขึ้นหน้าเวทีเป็นทางเลือกที่น่าจับตามอง




Affinity เริ่มต้นจากบริษัท Serif Europe (ก่อตั้ง 1987 อังกฤษ) ซึ่งพัฒนาซอฟต์แวร์ออกแบบตั้งแต่สมัยก่อน จากนั้นในช่วงกลางยุค 2010 ได้เปิดตัวชุดโปรแกรม Affinity ที่ประกอบด้วย Affinity Designer, Affinity Photo และ Affinity Publisher ซึ่งถูกออกแบบให้รองรับทั้ง vector ภาพถ่ายและ layout เพื่อผู้เชี่ยวชาญ
โปรแกรมชุดนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในกลุ่มดีไซเนอร์ที่ต้องการเครื่องมือคุณภาพสูงโดยไม่ต้องจ่ายแบบสมัครสมาชิกทุกเดือน
ในทางกลับกัน Canva ที่ก่อตั้งในปี 2013 เป็นแพลตฟอร์มออกแบบออนไลน์ที่มุ่งสู่ “คนทั่วไป” ที่ไม่ใช่นักออกแบบมืออาชีพ เน้น template ใช้งานง่าย แชร์ออนไลน์ได้ไว และโตอย่างรวดเร็วจนมีผู้ใช้หลายร้อยล้านคนทั่วโลก ด้วยความสะดวกและเข้าถึงง่าย Canva กลายเป็นชื่อที่ผู้เริ่มต้นและทีมงานสาย marketing ชื่นชอบ เพราะช่วยให้สร้างงานกราฟิกดีไซน์โดยไม่จำเป็นต้องเรียนหนักแบบโปรแกรมมืออาชีพ
และแล้วในเดือน มีนาคม 2024 Canva ได้เปิดเผยการซื้อบริษัท Serif ผู้สร้าง Affinity ในดีลมูลค่าหลายร้อยล้านปอนด์ เพื่อเสริมศักยภาพในการทำเครื่องมือออกแบบระดับมืออาชีพ
หลังจากนั้นได้มีการประกาศว่า Affinity จะยังคงพัฒนาในฐานะผลิตภัณฑ์ที่รองรับผู้มืออาชีพ แต่จะเชื่อมโยงกับความสามารถของ Canva เพื่อให้ครอบคลุมตั้งแต่ผู้เริ่มต้นไปจนถึงดีไซเนอร์ระดับสูง ยิ่งไปกว่านั้น มีรายงานว่ารุ่นใหม่ของ Affinity ภายใต้ Canva จะรวมฟีเจอร์ vector, photo และ layout ไว้ในแอปเดียว และมีเวอร์ชันฟรีสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
การที่ Canva เข้าซื้อ Affinity คือสัญญาณชัดว่า “เครื่องมือออกแบบ” ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในกลุ่มโปรอีกต่อไป แต่กำลังเปิดให้ผู้สร้างสรรค์ทุกระดับมีทางเลือกที่ทรงพลังและต่อเนื่อง นี่คือจังหวะที่วงการกราฟิกกำลังเปลี่ยนผ่านจากโมเดล “สมัครสมาชิกแพง” ไปสู่โมเดล “เข้าถึงได้และยั่งยืน”
Download Affinity by Canva
แรงบันดาลใจจากศิลปะและดีไซน์เพิ่มเติมได้ที่ Portjolio ที่ซึ่งเรื่องราวสร้างสรรค์ยังคงต่อเนื่องไม่สิ้นสุด